คู่มือการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย



สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย นอกจากทำเลของบ้านหรือคอนโดที่กำลังหาซื้อ  ปัจจัยที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ งบประมาณในการซื้อบ้าน ซึ่งอาจเลือกซื้อด้วยเงินสดหรือเงินกู้บางส่วน  สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านต้องมีการเตรียมตัวดังนี้



  1. การเตรียมความพร้อม  ได้แก่ statement เป็นต้น  สำหรับผู้ที่ทำงานมีรายได้ประจำ slip เงินเดือนหรือหนังสือรับรองฯ 50 ทวิ สามารถใช้ในการยืนยันรายได้  ส่วนผู้ที่มีอาชีพอิสระสามารถใช้บัญชีเงินฝากที่มีเงินเข้าเป็นประจำได้เช่นกัน
  2. เครดิต  แน่นอนว่าผู้กู้ควรมีสถานะสินเชื่อหรือประวัติการชำระหนี้ที่ดี  ซึ่งสามารถทำได้โดยการตรวจสอบเครดิตบูโรได้
  3. การเตรียมเงินออมให้พร้อม  สิ่งสำคัญในการซื้อบ้านหรือคอนโด คือ "เงินดาวน์"  ควรมีการกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เดือนก่อนการกู้บ้านและควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10% ของราคาบ้านที่ตั้งใจไว้  เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถผ่อนได้อย่างสบายกระเป๋านั้นเอง


ถ้าคุณมีการเตรียมตัวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็มาถึงการเตรียมเอกสารประกอบการกู้ยืม ดังนี้

นอกจากนี้ต้องเตรียมเอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งประกอบด้วย
  1. สำเนาโฉนดที่ดินหรือสำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด
  2. สำเนาเอกสารสัญญาซื้อขาย
  3. เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์
  4. แผนที่โดยสังเขปของที่ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกัน


หมายเหตุ  อาจมีเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร  ดังนั้น ควรศึกษารายละเอียดของแต่ละธนาคารให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ

หลังจากที่เตรียมตัวแล้ว ถึงเวลาจะกู้บ้านให้สบายกระเป๋า สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ
  1. มีเงินดาวน์เท่าไร  ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 10% ของราคาบ้าน  ดังนั้น หากจะซื้อบ้านราคาซัก 3 ล้านบาทจะต้องมีเงินเก็บเพื่อเป็นเงินดาวน์อย่างน้อย 3 แสนบาท  หากมีเงินดาวน์มากกว่าก็จะทำให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยลงไปได้
  2. ยอดผ่อนชำระต่อเดือน  ปกติแล้วภาระการผ่อนรายเดือนที่ไม่หนักจนเกินไป  ไม่ควรเกิน 40% ของราได้ก่อนภาษี  หากรายได้คนเดียวผ่อนไม่ไหว สามารถกู้ร่วมได้  ทั้งนี้ การกู้ร่วม ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือเป็นสามีภรรยา
  3. ระยะเวลาในการผ่อนชำระ  ปกติจะผ่อนสูงสุดไม่เกิน 30 ปี  เนื่องจากระยะเวลาผ่อนเมื่อรวมกับอายุของผู้กู้แล้ว  ต้องไม่เกิน 60 - 65 ปี (ช่วงอายุเกษียณ)  ระยะเวลาผ่อนสั้น ยอดผ่อนชำระรายเดือนจะมากกว่าระยะเวลาผ่อนยาว  หากมีความสามารถในการผ่อนสูง สามารถเลือกผ่อนสั้นได้เพื่อให้หมดภาระได้เร็วและประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่าย
  4. รูปแบบอัตราดอกเบี้ย  ปัจจุบันสถาบันการเงินมีทางเลือกให้กับผู้ขอสินเชื่อ ในการเลือกผ่อนชำระและรูปแบบอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยคงตัวหรืออัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรืออัตราดอกเบี้ยผสม เป็นต้น  ผู้ขอสินเชื่อควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่  เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  และ ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว  เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง

Share:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Thank you for your comment, it will be showed later.

Popular Posts

Just Pick It