Check list ดูแลสุขภาพรถ

     มาดู Check List ตรวจเช็คสุขภาพรถกันครับ
  • ตรวจน้ำหม้อน้ำ  ควรตรวจทุกๆ  2 – 4 อาทิตย์
  • ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง  ควรตรวจทุก 4 อาทิตย์ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสี ความหนืดและระดับของน้ำมันเครื่อง
  • ตรวจสภาพแบตเตอรี่  รถคันที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้หมั่นสตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาทีทุก 2 – 4  สัปดาห์คะ ทำให้แบตเตอรี่ไม่อ่อนจนเกิดสภาวะที่เรียกว่าสตาร์ทไม่ติด  แต่ถ้าลืม ก็ให้ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จก่อนครับ
  • เช็คอายุแบตเตอรี่ อันนี้จะมีระบุไว้อยู่แล้ว จดเก็บเอาไว้จะได้ทราบว่าควรเปลี่ยนเมื่อไรครับ
  • สภาพยางที่ปัดน้ำฝนยังสามารถรีดน้ำฝนออกจากกระจกได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ครับ
  • ตรวจน้ำที่ปัดน้ำฝน  ถ้ารู้ว่าช่วงไหนใช้บ่อยๆ ก็ควรตรวจทุกอาทิตย์
  • เช็คสภาพผ้าเบรก โดยการลองเหยีบเบรกกะทันหันดูคะ อันนี้ให้ลองในที่โล่งๆ ไม่ต้องขับเร็วมาก. ถ้าสามารถเบรกได้โดยไม่ไถลก็ยังใช้ได้
  • เช็คดอกยางรถ และสภาพโดยรอบ บางครั้งอาจจะมีตะปูติดล้อมาโดยไม่ทันรู้ตัว อาจทำให้ลมยางรั้วอ่อนๆ ได้
  • สุดท้าย หมั่นดู
    • ระดับน้ำมัน 
    • ภาษีรถยนต์/พรบ. ถึงกำหนดจ่ายหรือยังนะ
    • ระยะทางที่ใช้รถไปแล้วนะคะว่าถึงเวลาเข้าเช็คศูนย์หรือยังครับ
    • ระยะเวลาพ่นกันสนิม 










Share:

ปัญหากลิ่นผ้าอ้อมกวนใจ


เคยประสบปัญหาผ้าอ้อมใช้แล้วส่งกลิ่นกวนใจบ้างไหมคะ  แม้ว่าจะมั่นใจว่าพันแน่นแค่ไหน แต่ก็ยังมีกลิ่นเล็ดลอดออกมาให้ได้กลิ่นอยู่ดี  มาลองดูวิธีกำจัดกลิ่นกวนใจกันดูคะ

  • ก่อนอื่น ก่อนจะโยนผ้าอ้อมทิ้งควรพับผ้าอ้อมให้เล็กๆและพยายามเอาด้านนอกผ้าอ้อมหุ้มส่วนด้านในให้มิดนะคะ
  • ทิ้งในกระดาษห่อหรือถุงพลาสติกก่อนทิ้งลงถังขยะ
  • ถังขยะที่ใช้เก็บผ้าอ้อมสำหรับเตรียมทิ้ง ควรมีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันกลิ่นนะคะ  
  • สิ่งสุดท้าย ถ้าใครประสบปัญหาว่าแม้จะทำทุกอย่างแล้วก็ยังมีกลิ่น  ควรใส่ตัวดูดกลิ่น เช่น ถ่าน หรือ ลูกเหม็นมาใส่ในถังขยะด้วยซิคะ  
เพียงเท่านี้ปัญหากลิ่นผ้าอ้อมกวนใจก็หมดไปแล้วคะ  ใช้ได้ทั้งผ้าอ้อมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่นะคะ
Share:

ล้างห้องเครื่องดียังไง

สาวๆ เคยสังเกตุกันไหมคะว่ารถของเราเมื่อใช้ขับไปซักระยะหนึ่งห้องเครื่องของรถจะเริ่มหม่นหมอง เริ่มมีคราบจับจนทำให้รถของเราเริ่มเป็นสีดำดูไม่สะอาด  แต่ทำไมรถคนอื่นห้องเครื่องถึงยังเหมือนใหม่เลยนะ  เขาขับกันยังไงละ มีคำตอบง่ายๆ เลยคะ คือ "การล้างทำความสะอาดห้องเครื่อง" เป็นระยะนั้นเองคะ  แต่การล้างห้องเครื่องจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องยนต์รถด้วยนะคะ มาดูกันคะว่ามีประเด็นหลักๆ อะไรกันบ้าง


ตัวอย่างรูปห้องเครื่องก่อนล้างห้องเครื่อง

ตัวอย่างรูปห้องเครื่องหลังล้างห้องเครื่อง
  • ก่อนล้างห้องเครื่อง ควรจะตรวจดูก่อนว่าห้องเครื่องของรถมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรบ้าง ให้หาถุงพลาสติกมาคลุมเพื่อป้องกันน้ำซึมทำให้เกิดความเสียหาย
  • การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ฉีดน้ำเข้าเครื่องโดยตรง  หลายคนคิดว่าการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดจะช่วยให้คราบติดแน่นหลุดออกได้  แต่อาจจะทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เสียหายได้เช่นกันคะ  กรณีที่ต้องการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงต้องมีความชำนาญในการฉีดด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเกิด   ลองหันมาเลือกใช้น้ำยาหรือสเปรย์ล้างห้องเครื่องจะช่วยทำความสะอาดและล้างคราบเขม่าได้หมดจดเช่นกันคะ
ข้อดีของการล้างห้องเครื่อง
ช่วยให้ห้องเครื่องสะอาดและลดการสะสมความร้อนของเครื่องยนต์ได้คะ

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยและไม่มั่นใจแต่อยากทำความสะอาดห้องเครื่องก็สามารถใช้บริการของร้านล้างรถ  แต่ถ้าหากมั่นใจและอยากทำความสะอาดห้องเครื่องเองก็สามารถทำได้เช่นกันคะ



ขอบคุณสำหรับรูปประกอบบทความจาก internet และข้อมูลประกอบบทความจากช่างโต้งด้วยนะคะ
Share:

น้ำมันเครื่อง?


มาทำความรู้จักเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องกันดีกว่าครับ
ประเภทของนำ้มันเครื่อง
  1. ชนิดธรรมดา  จะมีระยะเวลาการใช้งานประมาณ 4,000 กิโลเมตร
  2. ชนิดกึ่งสังเคราะห์  จะมีระยะเวลาการใช้งานประมาณ 6,000 กิโลเมตร
  3. ชนิดสังเคราะห์ จะมีระยะเวลาการใช้งานประมาณ 10,000 กิโลเมตร


เกรดของน้ำมันเครื่อง
  1. เกรดสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน  นำมันเครื่องกลุ่มนี้จะมีตัวอักษร S ตามด้วยตัวอักษรเรียงจาก A-Z ตามเกราดของน้ำมันนั้น เช่น API SL เป็นต้น
  2. เกรดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะมีตัวอักษร ฉ ตามด้วยตัวอักษรเรียงจาก A-Z ตามเกราดของน้ำมันนั้น และตัวเลขที่บอกชนิดลูกสูบเครื่องยนต์ เช่น API CI-6 เป็นต้น


ความหนืดของน้ำมันเครื่อง
จะมีการกำนหนดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องด้วยตัวเลข ดังนี้
  • 5W  หมายถึง ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิที่ติดลบหรืออุณหภูมิเย็นจัด น้ำมันเครื่องจะมีคความหนืดในเกรดที่ 5
  • 40  หมายถึง ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิอยู่ในเกรดที่ 40 เป็นต้น


แล้วทำไมถึงต้องใช้น้ำมันเครื่อง
  • นำ้มันเครื่องมีหน้าที่ในการหล่อลื่นเครื่องยนต์ 
  • น้ำมันเครื่องช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์
  • ช่วยป้องกันการรั่วของกำลังอัด
  • น้ำมันเครื่องทำหน้าที่ในการทำความสะอาดเครื่องยนต์ 


คราวนี้คงจะพอทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องกันนะคะ


ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จากเว็บบอร์ดคนรักรถ นะคะ
Share:

ไรฝุ่น คุณป้องกันได้


ไรฝุ่น...ภัยเงียบที่คุณป้องกันได้
Share:

วิธีดูแลรถหลังน้ำท่วม

Share:

ของหนุ่มๆ ที่สาวๆ ก็เลือกใช้ได้

Share:

Popular Posts

Just Pick It